วิธีการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข 9 ประการ
ในชีวิตของคนเรามีเรื่องต่าง
ๆ มากมายให้ต้องประสบพบเจอ
แถมเรื่องบางเรื่องยังเป็นเรื่องที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าอีกต่างหาก
ซึ่งนี่เองอาจจะเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผลเสียทั้งต่อสภาพร่างกายและจิตใจ
ความสุขเริ่มต้นที่ตัวเรา
ในชีวิตของคนเรามีเรื่องต่าง
ๆ มากมายให้ต้องประสบพบเจอ
แถมเรื่องบางเรื่องยังเป็นเรื่องที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าอีกต่างหาก
ซึ่งนี่เองอาจจะเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผลเสียทั้งต่อสภาพร่างกายและจิตใจ
เรื่องเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นเกิดกับตัวคุณอย่างแน่นอน วันนี้เราจึงขอนำเสนอวิธีการดี
ๆ ที่สามารถช่วยให้คุณจัดการกับชีวิตและปัญหาที่เกิดขึ้นได้
มาดูกันว่าวิธีการที่ว่านั้น มีอะไรบ้าง และจะช่วยให้ชีวิตคุณสงบสุขได้อย่างไร
ตามมาดูกันเลย
กำหนดระยะเวลาให้มีขอบเขต
1. กำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน
การกำหนดระยะเวลานี้
จะช่วยให้คุณสามารถแบ่งเวลาให้มีความเหมาะสมและลงตัวได้เป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องการเรียน หรือเรื่องใด ๆ ก็ตามแต่
การจัดสรรเวลาจะมีประโยชน์อย่างมาก ที่สำคัญเมื่อคุณแบ่งเวลาได้แล้ว
ก็จะทำให้คุณไม่รู้สึกกังวล หรือเกิดความครียดใด ๆ ขึ้นเลย
2. หาวิธีให้ร่างกายได้พักผ่อน
การพักผ่อนถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
ที่จะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น
และผ่อนคลายจากหน้าที่ที่คุณต้องรับผิดชอบได้มากเลยทีเดียว
ลองหากิจกรรมที่คุณชอบและถนัด เช่น ไปออกกำลังกาย อ่านหนังสือ เล่นโยคะ ฯลฯ
เหล่านี้จะช่วยได้มากเลยล่ะ
3. อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
เรื่องเล็กน้อย
ยิบย่อย ก็ไม่ควรนำมาใส่ใจแต่อย่างใด ปล่อยวางไปซะบ้าง ไม่อย่างนั้น
จะทำให้เกิดความเครียดตามมา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตัวคุณอย่างยิ่ง
4. ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม
บางครั้งการรีบร้อนมากเกินไป
อาจไม่ส่งผลดีเท่าที่ควร ดังนั้นแล้ว ลดสปีดลงสักนิด ค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ พิจารณา
เพื่อให้เกิดความรอบคอบและมีประสิทธิภาพ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณสามารถจัดการงานต่าง
ๆ ได้อย่างเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น
5. เก็บกวาดข้าวของซะบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงานหรือที่บ้าน
หากคุณมีสิ่งของที่วางระเกะระกะ กระจัดกระจายอยู่ไม่เป็นที่เป็นทางแล้วล่ะก็
ทำการปัดกวาด เช็ดถู เก็บข้าวของนั้น ๆ โดยไว เพราะเมื่อคุณเก็บกวาดเสร็จแล้ว
จะทำให้คุณมีความคล่องตัวในการทำงานมากยิ่งขึ้น จะหยิบจับอะไรก็สะดวก
ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน
6. ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานซะบ้าง
ถ้าชีวิตมัวแต่จมปลักอยู่กับเรื่องเครียด
ๆ มากจนเกินไป จะทำให้คุณมีแต่แย่ลงและแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้นแล้ว อะไรก็ตามที่สามารถสร้างความบันเทิงให้กับตัวคุณได้
ก็หามาใส่ตัวเองซะบ้าง ชีวิตนี้จะได้มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม
7. หลีกหนีจากโลกแห่งความวุ่นวาย
หากงานที่ทำมีความยุ่งยาก
ซับซ้อน ชวนวุ่นวายชีวิตมากมาย ก็ขอให้รีบ ๆ เคลียร์งานนั้น ๆ
แล้วหาเวลาออกไปพักผ่อนซะบ้าง จะออกไปเที่ยว ไปดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ฯลฯ
ก็เป็นทางออกที่น่าสนใจเช่นกัน
8. ตั้งใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเต็มที่
ประเภทที่ว่าชอบทำอะไรหลาย ๆ
อย่างในเวลาเดียวกัน ขอให้เลิกทำแบบนั้นซะ เพราะนั่นจะทำให้คุณไม่มีสมาธิ(Meditation)กับสิ่งใดเลย เผลอ ๆ อาจจะทำให้งานที่ทำไม่มีประสิทธิภาพ
แถมยังส่งผลให้สภาพจิตใจย่ำแย่หนักไปกว่าเดิมอีกต่างหาก
9. จัดการกับปัญหาที่เข้ามาในชีวิต
ขอให้จำเอาไว้เสมอว่า
"ทุกปัญหา ย่อมมีทางออก"
ไม่ว่าปัญหาที่เข้ามาในชีวิตจะมีความรุนแรงต่อสภาพจิตใจมากน้อยขนาดไหน
ก็ขอให้ใจเย็น ๆ คิดอย่างรอบคอบ ค่อย ๆ แก้ปัญหาไปทีละขั้น ๆ
หรืออาจจะปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์ด้วยก็ได้ จะสามารถช่วยแก้ปัญหานั้น ๆ
ได้มากเลยทีเดียว
*****************************
"การใช้ชีวิต 6 ระดับ"
1. การใช้ชีวิตตามความหวาดกลัว คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในระดับนี้
การใช้ชีวิตในระดับนี้ การตัดสินใจในชีวิตไม่สนใจเรื่องถูกต้อง
แต่สนใจในเรื่องถูกใจ คิดแต่ความหวาดกลัว เช่น กลัวลูกน้องไม่รัก กลัวเพื่อนไม่คบ
2. การใช้ชีวิตตามกติกา ในระดับสังคมบ้านเมือง เราใช้กติกาในการดำเนินชีวิตมาก กติกาหลักๆ ที่เราใช้ มักจะเกี่ยวข้องอยู่กับ เรื่องสองสามเรื่องคือ "เงิน-เศรษฐศาสตร์" เราจะคำนึงถึงความคุ้ม กำไรและมักใช้สิ่งนี้ เป็นเหตุผลในการตัดสินใจ "วิชา" การตัดสินใจทำสิ่งใด อาศัยว่าได้เรียนมาอย่างไรก็ทำไปตามนั้น "กฎหมาย" ชีวิตเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับกฎหมาย ดำเนินชีวิตไปตามกฎเกณฑ์ ที่กฎหมายกำหนดไว้
3. การใช้ชีวิตตามสำนึกที่ดี ส่วนใหญ่แล้วเราใช้ชีวิตในระดับสำนึกที่ดี แต่บางทีเราก็ท้อแท้ว่าทำดีแล้วไม่ได้ดี เพราะเราทำดีแล้ว เราหวังว่าเราควรจะได้อะไรตอบแทน ที่ไม่ได้ก็ผิดหวัง แต่เมื่อเราได้พบเห็นคนที่เขาทุกข์ยาก ลำบากกว่าเรา เราเองก็อาจจะรู้สึกว่า โชคดีเท่าไรแล้ว ที่เราได้ทำดี ได้ใช้ชีวิตที่ดี
4. การใช้ชีวิตตามความจริง คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในระดับนี้ เป็นคนที่อยู่กับความจริงที่มันเป็นจริงๆ คาดหวังให้ตรงกับความเป็นจริง ความจริงไม่ใช่สิ่งที่เราต้องค้นหา เพียงแต่อย่าใส่ความไม่จริงลงไป ถ้าเราใช้ชีวิตอย่าง ไม่เข้าใจความจริง เราก็จะใช้ชีวิตไปตามแรงจูงใจ ด้วยอุดมคติ แรงจูงใจด้วยความคาดหวัง ซึ่งเสี่ยงต่อความพลาดผิดหวัง ท้อแท้ และเสียใจ
5. การใช้ชีวิตด้วยความว่าง เมื่อเราเริ่มมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่มันตกลงตรงหน้าเรา เห็นว่าสิ่งทั้งหลายมันเปลี่ยนแปลง และมีวันตาย เห็นความจริงว่า มันสุขๆ ทุกข์ๆ เมื่อเจอความทุก เราก็สามารถเผชิญหน้ากับมันได้ คนที่ใช้ชีวิตในระดับนี้ จะทำใจได้ว่าปัญหาเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นธรรมชาติที่ชีวิตต้องเจอ
6. ชีวิตที่หลุดพ้น เป็นชีวิตที่แข็งแรง ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของความอยาก ความต้องการใดๆ ที่เกินจำเป็น มองเห็นชีวิตตามความเป็นจริง เลือกใช้ชีวิตแต่ในสิ่งที่เป็นสาระ
*** ได้จาก หนังสือเรื่อง "แรงดลใจแห่งชีวิต" ผู้เขียนคือ คุณโสภณ สุภาพงษ์ ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า ส่วนมากเราจะใช้ชีวิตกันอยู่ที่ระดับที่ 1 - 4 ขึ้นอยู่กับว่า บุคคลนั้น ได้รับการอบรม และสั่งสมประสบการณ์ชีวิตมาอย่างไร..
2. การใช้ชีวิตตามกติกา ในระดับสังคมบ้านเมือง เราใช้กติกาในการดำเนินชีวิตมาก กติกาหลักๆ ที่เราใช้ มักจะเกี่ยวข้องอยู่กับ เรื่องสองสามเรื่องคือ "เงิน-เศรษฐศาสตร์" เราจะคำนึงถึงความคุ้ม กำไรและมักใช้สิ่งนี้ เป็นเหตุผลในการตัดสินใจ "วิชา" การตัดสินใจทำสิ่งใด อาศัยว่าได้เรียนมาอย่างไรก็ทำไปตามนั้น "กฎหมาย" ชีวิตเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับกฎหมาย ดำเนินชีวิตไปตามกฎเกณฑ์ ที่กฎหมายกำหนดไว้
3. การใช้ชีวิตตามสำนึกที่ดี ส่วนใหญ่แล้วเราใช้ชีวิตในระดับสำนึกที่ดี แต่บางทีเราก็ท้อแท้ว่าทำดีแล้วไม่ได้ดี เพราะเราทำดีแล้ว เราหวังว่าเราควรจะได้อะไรตอบแทน ที่ไม่ได้ก็ผิดหวัง แต่เมื่อเราได้พบเห็นคนที่เขาทุกข์ยาก ลำบากกว่าเรา เราเองก็อาจจะรู้สึกว่า โชคดีเท่าไรแล้ว ที่เราได้ทำดี ได้ใช้ชีวิตที่ดี
4. การใช้ชีวิตตามความจริง คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในระดับนี้ เป็นคนที่อยู่กับความจริงที่มันเป็นจริงๆ คาดหวังให้ตรงกับความเป็นจริง ความจริงไม่ใช่สิ่งที่เราต้องค้นหา เพียงแต่อย่าใส่ความไม่จริงลงไป ถ้าเราใช้ชีวิตอย่าง ไม่เข้าใจความจริง เราก็จะใช้ชีวิตไปตามแรงจูงใจ ด้วยอุดมคติ แรงจูงใจด้วยความคาดหวัง ซึ่งเสี่ยงต่อความพลาดผิดหวัง ท้อแท้ และเสียใจ
5. การใช้ชีวิตด้วยความว่าง เมื่อเราเริ่มมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่มันตกลงตรงหน้าเรา เห็นว่าสิ่งทั้งหลายมันเปลี่ยนแปลง และมีวันตาย เห็นความจริงว่า มันสุขๆ ทุกข์ๆ เมื่อเจอความทุก เราก็สามารถเผชิญหน้ากับมันได้ คนที่ใช้ชีวิตในระดับนี้ จะทำใจได้ว่าปัญหาเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นธรรมชาติที่ชีวิตต้องเจอ
6. ชีวิตที่หลุดพ้น เป็นชีวิตที่แข็งแรง ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของความอยาก ความต้องการใดๆ ที่เกินจำเป็น มองเห็นชีวิตตามความเป็นจริง เลือกใช้ชีวิตแต่ในสิ่งที่เป็นสาระ
*** ได้จาก หนังสือเรื่อง "แรงดลใจแห่งชีวิต" ผู้เขียนคือ คุณโสภณ สุภาพงษ์ ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า ส่วนมากเราจะใช้ชีวิตกันอยู่ที่ระดับที่ 1 - 4 ขึ้นอยู่กับว่า บุคคลนั้น ได้รับการอบรม และสั่งสมประสบการณ์ชีวิตมาอย่างไร..
*************************
30 ข้อคิดในการใช้ชีวิต
1. อย่าทำลายความหวังของใคร เพราะเขาอาจเหลืออยู่แค่นั้น
2. เมื่อมีคนเล่าว่า เขามีส่วนในเหตุการณ์สำคัญอะไรก็ตาม เราไม่ต้องไปคุยทับ ปล่อยเขาฟุ้งไปตาม สบาย
3. รู้จักฟังให้ดี โอกาสทองบางทีมันก็มาถึงแบบแว่วๆเหมือนกัน
4. หยุดอ่านคำอธิบายสถานที่ทางประวัติศาสตร์ซึ่งอยู่ตามริมทางเสียบ้าง
5. จะคิดการใด จงคิดการให้ใหญ่ๆ เข้าไว้ แต่เติมความสุข สนุกสนานลงไปด้วยเล็กน้อย
6. หัดทำสิ่งดีๆ ให้คนอื่นจนเป็นนิสัย โดยไม่จำเป็นต้องให้เขารู้
7. จำไว้ว่าข่าวทุกชนิดล้วนถูกบิดเบือนมาแล้วทั้งนั้น
8. เวลาเล่นเกมกับเด็กๆ ก็ปล่อยให้แกชนะไปเถอะ
9. ใครจะวิจารณ์เรายังไงก็ช่าง ไม่ต้องไปเสียเวลาตอบโต้
10. ให้โอกาสผู้อื่นเป็นครั้งที่ "สอง" แต่อย่าให้ถึง "สาม"
11. อย่าวิจารณ์นายจ้าง ถ้าทำงานกับเขาแล้วไม่มีความสุข ก็ลาออกซะ
12. ทำตัวให้สบาย อย่าคิดมาก ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายแล้ว อะไรๆ มันก็ไม่สำคัญอย่างที่คิดไว้ทีแ รกหรอก
13. ใช้เวลาน้อยๆในการคิดว่า "ใคร" เป็นคนถูก แต่ใช้เวลาให้มากในการคิดว่า "อะไร" คือสิ่งที่ถูก
14. เราไม่ได้ต่อสู้กับ "คนโหดร้าย" แต่เราต่อสู้กับ "ความโหดร้าย" ในตัวคน
15. คิดให้รอบคอบก่อนจะให้เพื่อนต้องมีภาระในการรักษาความลับ
16. เมื่อมีใครสวมกอดคุณ ให้เขาเป็นฝ่ายปล่อยก่อน
17. ยอมที่จะแพ้ในสงครามย่อยๆ เมื่อการแพ้นั้นจะทำให้เราชนะสงครามใหญ่
18. เป็นคนถ่อมตน ...คนเขาทำอะไรต่ออะไรสำเร็จกันมามากมายแล้วตั้งแต่เรายังไม่เกิด
19. ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้ายเพียงใด ...สุขุมเยือกเย็นเข้าไว้
20. อย่าไปหวังเลยว่าชีวิตนี้จะมีความยุติธรรม
21. อย่าให้ปัญหาของเราทำให้คนอื่นเขาเบื่อหน่าย ถ้ามีใครมาถามเราว่า "เป็นอย่างไรบ้างตอน
นี้" ก็ ตอบเขาไปเลยว่า "สบายมาก"
22. อย่าพูดว่ามีเวลาไม่พอ เพราะเวลาที่คุณมีมันก็วันละ 24 ชั่วโมง เท่าๆ กับ หลุยส์ ปาสเตอร์, ไมเคิลแอนเจลโล, แม่ชีเทเรซา, ลีโอนาร์โด ดา วินซี, ทอมัส เจฟเฟอร์สัน หรือ อัลเบิร์ต ไอสไตน์ ที่เขามีนั่นเอง
23. เป็นคนใจกล้าและเด็ดเดี่ยว เมื่อเหลียวกลับไปดูอดีต เราจะเสียใจในสิ่งที่อยากทำแล้วไม่ได้ทำ มากกว่าเสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้ว
24. ประเมินตนเองด้วยมาตราฐานของตัวเอง ไม่ใช่ด้วยมาตราฐานของคนอื่น
25. จริงจังและเคี่ยวเข็ญตนเอง แต่อ่อนโยนและผ่อนปรนต่อผู้อื่น
26. อย่าระดมสมอง เพราะไอเดียดีๆ ใหม่ๆ และยิ่งใหญ่จนสามารถเปลียนแปลงโลกได้ ล้วนมาจาก บุคคลที่คิดค้นอยู่แต่เพียงผู้เดียวทั้งสิ้น
27. คงไว้ซึ่งความเป็นคนเปิดเผย อ่อนโยน และอยากรู้อยากเห็น (มิใช่สอดรู้สอดเห็น)
28. ให้ความนับถือแก่ทุกคนที่ทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ ไม่ว่างานนั้นจะกระจอกงอกง่อยสักปานใด
29. คำนึงถึงการมีชีวิตให้ "กว้างขวาง" มากกว่าการมีชีวิตให้ "ยืนยาว"
30. มีมารยาทและอดทนกับคนที่สูงวัยกว่าเสมอ
*************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น